Close Menu
    Facebook X (Twitter) Instagram
    golfcoursethai
    • Home
    • ข่าวสารล่าสุด
    • ความบันเทิง
    golfcoursethai
    ความบันเทิง

    ล่าแสงเหนือกับชาวซามิใน นอร์เวย์ การผจญภัยเชิงวัฒนธรรม

    Jesse FosterBy Jesse FosterAugust 1, 2025No Comments2 Mins Read

    แสงเหนือหรือออโรรา บอเรียลิส (Aurora Borealis) เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลก แต่การชมแสงเหนือใน นอร์เวย์ ไม่ใช่เพียงแค่การมองท้องฟ้ายามค่ำคืนเท่านั้น มันยังเป็นโอกาสที่จะได้สัมผัสวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของ ชาวซามิ (Sámi) ชนพื้นเมืองอาร์กติกที่อาศัยในแถบสแกนดิเนเวียมานานนับพันปี การผจญภัยครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการตามหาความสวยงามของแสงเหนือ แต่ยังเป็นการเรียนรู้วิถีชีวิต ความเชื่อ และประเพณีของชาวซามิที่ผูกพันกับธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง


    1. ชาวซามิ: ชนพื้นเมืองแห่งอาร์กติก

    ชาวซามิเป็นชนพื้นเมืองกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในเขตอาร์กติกของนอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ และรัสเซีย มานานกว่า 5,000 ปี พวกเขามีภาษาและวัฒนธรรมเป็นของตนเอง ซึ่งยังคงรักษาไว้อย่างเหนียวแน่นแม้ในโลกสมัยใหม่

    วิถีชีวิตดั้งเดิม

    • การเลี้ยงกวางเรนเดียร์: ชาวซามิเป็นผู้เลี้ยงกวางเรนเดียร์แบบเร่ร่อน โดยกวางไม่เพียงเป็นแหล่งอาหาร แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและความเชื่อ
    • การล่าสัตว์และหาปลา: ในอดีต ชาวซามิใช้ชีวิตด้วยการล่าสัตว์ เช่น กวางมูส และจับปลาในทะเลสาบและแม่น้ำ
    • การทำเครื่องหนังและงานหัตถกรรม: ชาวซามิมีทักษะการทำเครื่องหนังและงานฝีมือที่สวยงาม เช่น มีดซามิ (Sámi knife) และ เครื่องประดับเงิน

    ความเชื่อและศาสนา

    ชาวซามินับถือศาสนาแบบผีสางเทวดา (Animism) เชื่อว่าทุกสิ่งในธรรมชาติมีจิตวิญญาณ โดยเฉพาะ แสงเหนือ ที่มีความสำคัญในตำนานของพวกเขา

    • ตำนานแสงเหนือของชาวซามิ: บางเผ่าเชื่อว่าแสงเหนือคือ วิญญาณของบรรพบุรุษ หรือ การเต้นรำของสุนัขจิ้งจอกที่ส่งแสงสะท้อนขึ้นฟ้า
    • โจอิค (Joik): เพลงพื้นบ้านของชาวซามิที่ใช้ร้องสรรเสริญธรรมชาติและวิญญาณ

    2. การผจญภัยล่าแสงเหนือในดินแดนซามิ

    การเดินทางไปชมแสงเหนือในนอร์เวย์พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมซามิสามารถทำได้ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเมือง คาราโชก (Karasjok) และ อัลตา (Alta) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของชุมชนซามิ

    กิจกรรมที่ไม่ควรพลาด

    (1) นั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์ใต้แสงเหนือ

    • ประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้: ในช่วงฤดูหนาว คุณสามารถนั่งเลื่อนที่ลากโดยกวางเรนเดียร์ผ่านป่าหิมะ ขณะที่แสงเหนือสาดส่องบนฟ้า
    • เรียนรู้วิถีชีวิต: ไกด์ชาวซามิจะเล่าถึงความสำคัญของกวางเรนเดียร์ในวัฒนธรรมของพวกเขา

    (2) พักในลาโว (Lavvo) กระท่อมแบบซามิ

    • ลาโว คือกระท่อมทรงกลมแบบดั้งเดิมของชาวซามิ ปัจจุบันมีที่พักแบบนี้ให้ลองใช้ชีวิตเหมือนชนเผ่า
    • บางแห่งจัดเป็นแพ็กเกจรวมการกินอาหารพื้นบ้าน เช่น เนื้อกวางเรนเดียร์และปลาแซลมอน

    (3) เรียนรู้การทำมีดซามิและงานหัตถกรรม

    • ในเมือง คาราโชก มีหมู่บ้านวัฒนธรรมซามิ (Sápmi Park) ที่สอนการทำมีดและเครื่องประดับแบบดั้งเดิม

    (4) ชมพิพิธภัณฑ์และศิลปะซามิ

    • พิพิธภัณฑ์ซามิในนอร์เวย์ (Sami National Museum): ที่เมืองคาราโชก
    • อัลตา มิวเซียม (Alta Museum): แสดงประวัติศาสตร์ศิลปะหินโบราณและวัฒนธรรมซามิ

    3. ช่วงเวลาและสถานที่ที่ดีที่สุด

    ฤดูกาล

    • พฤศจิกายน – มีนาคม: เป็นช่วงที่มืดยาวนานและมีโอกาสเห็นแสงเหนือสูงที่สุด
    • มกราคม – กุมภาพันธ์: อากาศหนาวจัด แต่ท้องฟ้าแจ่มใสบ่อยครั้ง

    สถานที่แนะนำ

    1. คาราโชก (Karasjok)
      • เป็นเมืองหลวงทางวัฒนธรรมของชาวซามิ
      • มีกิจกรรมแบบซามิให้ทำตลอดฤดูหนาว
    2. อัลตา (Alta)
      • หนึ่งในเมืองที่ดีที่สุดสำหรับการชมแสงเหนือ
      • มีทัวร์รวมวัฒนธรรมซามิและล่าแสงเหนือ
    3. ลักเซิลฟ์ (Lakselv)
      • มีฟาร์มกวางเรนเดียร์ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชม

    4. เคล็ดลับเพิ่มประสบการณ์

    • แต่งกายให้อุ่น: อุณหภูมิอาจต่ำกว่า -20°C
    • ใช้บริการไกด์ชาวซามิ: เพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง
    • ตรวจสอบดัชนี KP Index: เพื่อเพิ่มโอกาสเห็นแสงเหนือ

    5. สรุป: แสงเหนือที่มากกว่าความสวยงาม

    การล่าแสงเหนือในนอร์เวย์ไม่ใช่แค่การรอคอยแสงสีเขียวบนฟ้า แต่ยังเป็นการเดินทางไปพบกับวัฒนธรรมโบราณของชาวซามิที่ผูกพันกับธรรมชาติมาหลายพันปี ไม่ว่าจะเป็นการนั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์ การฟังโจอิคใต้แสงดาว หรือการเรียนรู้งานฝีมือแบบดั้งเดิม ทุกกิจกรรมล้วนทำให้การผจญภัยครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าและน่าจดจำ

    ล่าแสงเหนือกับชาวซามิในนอร์เวย์: การผจญภัยเชิงวัฒนธรรม (ต่อ)

    ในส่วนแรก เราได้สำรวจวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวซามิและกิจกรรมน่าตื่นเต้นในการชมแสงเหนือ แต่ยังมีแง่มุมที่น่าสนใจอีกมากมายที่ทำให้การเดินทางครั้งนี้พิเศษกว่าที่คิด ในส่วนนี้ เราจะเจาะลึกถึง อาหารพื้นเมืองของชาวซามิ เทคนิคการถ่ายภาพแสงเหนือในวัฒนธรรมซามิ และการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ


    6. อาหารพื้นบ้านซามิ: รสชาติแห่งอาร์กติก

    การได้ลิ้มลองอาหารแบบดั้งเดิมเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เข้าใจวัฒนธรรมชาวซามิ更深 อาหารของที่นี่มีลักษณะเฉพาะคือ ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติรอบตัว และเหมาะกับสภาพอากาศหนาวเย็น

    เมนูต้องลอง

    1. Bidos (ซุปเนื้อกวางเรนเดียร์)
      • อาหารจานหลักของชาวซามิ ทำจากเนื้อกวางเรนเดียร์นุ่มๆ ต้มกับผักและเครื่องเทศ
      • มักเสิร์ฟในโอกาสพิเศษหรือต้อนรับแขก
    2. Gáhkku (ขนมปังซามิ)
      • ขนมปังแบบดั้งเดิมที่อบบนกองไฟ
      • มีทั้งแบบหวานและเค็ม บางครั้งใส่เบอร์รี่ป่า
    3. Suaššat (ปลาแห้ง)
      • ปลาแซลมอนหรือปลาเทราท์ที่ตากแห้งแบบธรรมชาติ
      • กินกับเนยหรือเป็นของว่าง
    4. Cloudberry Jam
      • แยมจากผลคลาวด์เบอร์รี ผลไม้ป่าหายากของอาร์กติก
      • รสชาติเปรี้ยวอมหวาน รับประทานกับขนมปังหรือแพนเค้ก

    ประสบการณ์การรับประทานอาหารแบบซามิ

    • ในลาโว (Lavvo): บางฟาร์มกวางเรนเดียร์จัดอาหารเย็นแบบซามิในกระท่อม พร้อมเล่าเรื่องราววัฒนธรรม
    • ร้านอาหารในคาราโชก: มีร้านที่เสิร์ฟอาหารซามิแบบสมัยใหม่

    7. เทคนิคการถ่ายภาพแสงเหนือในแบบซามิ

    การถ่ายภาพแสงเหนือในดินแดนซามิไม่เหมือนที่อื่น เพราะคุณสามารถใช้ วิถีชีวิตและสถาปัตยกรรมของชาวซามิ เป็นองค์ประกอบในภาพ

    ไอเดียการถ่ายภาพ

    1. แสงเหนือกับลาโว
      • ถ่ายภาพกระท่อมลาโวที่สว่างด้วยไฟอ่อนๆ พร้อมแสงเหนือบนฟ้า
      • ใช้ long exposure เพื่อให้เห็นทั้งแสงดาวและแสงออโรรา
    2. กวางเรนเดียร์กับแสงเหนือ
      • ถ่ายภาพกวางเรนเดียร์ในทุ่งหิมะ โดยมีแสงเหนือเป็นแบ็คกราวด์
    3. ชาวซามิในชุดพื้นเมือง
      • ชุด Gákti ที่สีสันสดใสของชาวซามิจะตัดกับแสงเหนือสวยงาม

    อุปกรณ์แนะนำ

    • กล้อง Mirrorless/DSLR: ที่สามารถปรับค่า manual ได้
    • ขาตั้งกล้อง: เพื่อถ่ายภาพ long exposure
    • แบตเตอรี่สำรอง: อากาศเย็นทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว

    8. การท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ

    ชาวซามิอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เปราะบาง การไปเยือนจึงควรเคารพวัฒนธรรมและธรรมชาติ

    ข้อควรปฏิบัติ

    1. เคารพพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์
      • บางพื้นที่เช่น Sieidi (หินศักดิ์สิทธิ์) เป็นสถานที่สำคัญทางความเชื่อ ควรอยู่ห่างหากไม่ได้อนุญาต
    2. ไม่รบกวนกวางเรนเดียร์
      • กวางคือชีวิตของชาวซามิ ควรอยู่ห่างและฟังคำแนะนำจากเจ้าของฟาร์ม
    3. สนับสนุนชุมชนท้องถิ่น
      • ซื้อของฝากจากร้านค้าชาวซามิโดยตรง
      • ใช้บริการไกด์ท้องถิ่น
    4. รักษาสิ่งแวดล้อม
      • ไม่ทิ้งขยะ และลดการใช้พลาสติก

    9. เส้นทางแนะนำสำหรับการเดินทาง

    3 วัน 2 คืน ในคาราโชก

    วันแรก

    • เยี่ยมชม Sápmi Park
    • เรียนรู้การทำมีดซามิ
    • อาหารเย็นแบบซามิในลาโว

    วันที่สอง

    • นั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์
    • ชมพิพิธภัณฑ์ซามิ
    • ล่าแสงเหนือตอนกลางคืน

    วันที่สาม

    • ซื้อของฝากจากร้านหัตถกรรม
    • เดินทางไปอัลตาหรือทรอมโซ

    10. สรุป: การเดินทางที่เติมเต็มทั้งใจและจิตวิญญาณ

    การล่าแสงเหนือกับชาวซามิไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว แต่คือ การเดินทางเพื่อเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ที่นี่คุณจะได้พบกับ:

    • วัฒนธรรม ที่สืบทอดมาเป็นพันปี
    • อาหาร รสชาติแห่งอาร์กติก
    • ประสบการณ์ ที่หาไม่ได้จากที่อื่น

    ไม่ว่าคุณจะมาเพื่อแสงเหนือ หรือเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมซามิ การผจญภัยครั้งนี้จะทิ้งความประทับใจไม่รู้ลืม

    “ในความเงียบของทุ่งหิมะ ใต้แสงออโรราที่เต้นรำ คุณอาจได้ยินเสียงเพลงโจอิคของชาวซามิ… นั่นคือเสียงของอาร์กติกที่กำลังบอกเล่าเรื่องราวของมัน”

    Jesse Foster

    Related Posts

    ลูกาโน เสน่ห์เมดิเตอร์เรเนียนกลางเทือกเขาในตอนใต้ของสวิตเซอร์แลนด์

    July 31, 2025

    ดานัง: ไข่มุกแห่งชายฝั่ง เวียดนาม ที่ซึ่งธรรมชาติพบกับธรรมชาติ

    July 30, 2025

    ความมหัศจรรย์สถาปัตยกรรมอมตะของกรุง โรม แพนธีออน

    July 29, 2025

    Comments are closed.

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.